รมว. พิพัฒน์ เสนอ ครม. เห็นชอบ ขยายเวลาต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU แรงงานกัมพูชา เมียนมา อีก 6 เดือน ถึง 13 ส.ค. 68 ลาว เวียดนาม 3 เดือน ถึง พ.ค. 68

Posted by: Admin 11 6 มี.ค. 2568

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เรื่อง การขยายระยะเวลาการต่ออายุใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ใน 2 ประเด็น คือ ผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาและเมียนมาที่นายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและอนุญาตให้ทำงาน เป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 13 สิงหาคม 2568 เพื่อให้นายจ้างยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว (บต. 33) พร้อมเอกสารและหลักฐาน ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และตรวจลงตราวีซ่าเพื่ออยู่และทำงานในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2570 และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี พร้อมกับผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติลาวและเวียดนามที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรีถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 - 13 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว พร้อมเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอ (บต. 33) ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ตรวจลงตราวีซ่าเพื่ออยู่และทำงานในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2569
 
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ครม.ให้ความเห็นชอบในหลักการร่างประกาศของกระทรวงแรงงาน จำนวน 2 ฉบับ รวมถึงอนุมัติในหลักการร่างประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 2 ฉบับ รวม 4 ฉบับ โดยแรงงานกลุ่มดังกล่าวจะได้รับการผ่อนผัน เมื่อประกาศกระทรวงมหาดไทย และประกาศกระทรวงแรงงานมีผลบังคับใช้ กรมการจัดหางานจึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติ เร่งยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 และขอให้ดำเนินการทุกขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ระหว่างนี้ขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน doe.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก : https://www.doe.go.th/prd/alien/news/param/site/152/cat/7/sub/0/pull/detail/view/detail/object_id/88978